ยานยนต์ยักษ์ใหญ่จีน CHERY ตั้งฐานผลิตในไทย ขายรถอีวีรุ่นแรกกลางปีนี้

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บริษัทเชอรี่ (Chery) ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของจีนและเป็นผู้นำ เทคโนโลยียานยนต์ระดับโลก ที่มียอดการส่งออกรถยนต์เป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง 21 ปี ได้ตัดสินใจเลือกจังหวัดระยอง ประเทศไทย เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชนิดพวงมาลัยขวา โดยจะเริ่มผลิต เฟสแรกภายในปี 2568 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบบีอีวีและเอชอีวี ปีละประมาณ 50,000 คัน และผลิตเฟสที่ 2 ภายในปี 2571 จะขยายกำลังการผลิตถึงปีละ 80,000 คัน เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง หลังได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในช่วงกลางปี 67 เตรียมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในไทยเพื่อทดลองตลาด โดยเริ่มแรกบริษัทจะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกโอโมดา ซี5 อีวี ซึ่งเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ เอสยูวี ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% มาจำหน่ายเพื่อทดลองตลาด ตามมาด้วยรถยนต์พรีเมียม เอสยูวี ออฟโรดรุ่น เจคู6 อีวี, เจคู7 พีเอชอีวี และเจคู8 พีเอชอีวี พร้อมเปิดโชว์รูม 39 แห่ง ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทเชอรี่ ออโต้โมบาย ประเทศไทย จะดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อบริษัท "โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย)" ซึ่งโอโมดาและเจคูเป็นแบรนด์ของเชอรี่ สำหรับทำตลาดในต่างประเทศ

"การตัดสินใจลงทุนตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยของบริษัทเชอรี่ครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกชั้นของประเทศไทย ก่อนหน้านี้มีคำยรถยนต์รายใหญ่จากจีน ได้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยแล้ว 7 ราย ประกอบด้วย BYD, MG, Great Wall Motor, Changan Automobile, GAC Aion, NETA และ Foton กรณีของเชอรี่เป็นรายที่ 8 ช่วยตอกย้ำให้เห็นภาพชัดเจนว่า กลุ่มบริษัทรถยนต์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีน ได้ตัดสินใจเลือกประเทศไทย เป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาคสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย รวมทั้งมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ"

นายนฤตม์ กล่าวว่า สำนักงานบีโอไอที่ประเทศจีน ได้เริ่มหารือกับบริษัทเชอรี่ ตั้งแต่ปี 2564 จากนั้นได้มีการเจรจาหารือ และให้ข้อมูลกับทีมงานของบริษัทเป็นระยะ ๆ ต่อมาเมื่อเดือน มิ.ย. 2566 เลขาธิการบีโอไอ ได้เดินทางไปพบผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเชอรี่ที่ประเทศจีน โดยได้นำเสนอมาตรการสนับสนุนใหม่ๆ ของภาครัฐ รวมทั้งได้หารือแผนการลงทุนที่มีความชัดเจนมากขึ้น จนนำมาสู่การยื่นคำขอและการอนุมัติให้การส่งเสริม การลงทุนเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 คณะผู้บริหารจากบริษัท โอโมดา แอนด์ จคู (ประเทศไทย) จำกัด

นายฉี เจี๋ย ประธานบริษัทเชอรี่ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในภูมิภาค และกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค เรามองเห็นโอกาสการลงทุนในกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จากการพัฒนาอุตสาหกรรมและการสนับสนุนรถยนต์พลังงานใหม่ของรัฐบาลไทย ที่สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ โอโมดา แอนด์ เจดู โดยเรามุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนไทยให้มากที่สุด และเรามีความตั้งใจที่เลือกใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในไทย ซึ่งในอนาคตบริษัทจะทำชิ้นส่วนจากในประเทศด้วย

2024-04-22T09:45:34Z dg43tfdfdgfd